0 0
Read Time:2 Minute, 40 Second

หลังจากที่ สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ หรือ มนตรีซีเกมส์ ได้ลงมติแก้ไขธรรมนูญข้อบังคับครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 62 ปี ทั้งเรื่องบรรจุชนิดกีฬาที่จะใช้แข่งขันซีเกมส์ ให้เน้นแต่กีฬาสากล รวมถึงอีเวนต์ ที่มีในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์และเอเชี่ยนเกมส์ เป็นหลัก ขณะที่ กีฬาพื้นบ้าน จะมีได้ไม่เกิน 4 ชนิดกีฬา ชิงชัยได้กีฬาละ 8 เหรียญทอง เท่านั้น โดยจะเริ่มต้นในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพเป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแก้กฏเรื่องของนักกีฬาโอนสัญชาติ หรือ โยกสัญชาติ ที่เห็นได้ชัดในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ที่ผ่านมา

เรื่องนี้ “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า ส่วนตัวตนคิดว่าไม่เหมาะสมในเรื่องของการนำนักกีฬาจากชาติอื่นมาแข่งขัน อย่างครั้งนี้ไม่ได้เรียกว่าการโอนสัญชาติ แต่เหมือนเป็นการใช้วิธีซื้อตัวมาเล่นต่างหาก ซึ่งปกติแล้วควรจะต้องมีกฏว่าต้องพำนักอยู่ในประเทศนั้นๆ กี่วัน หรือกี่ปี ถึงจะลงแข่งขันได้ แต่ครั้งนี้ขอแค่มีพาสปอร์ตของชาตินั้นๆ ก็สามารถลงแข่งขันได้เลย ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก

“เราพยายามแก้ไขในเรื่องนี้ ที่ประชุมมนตรีซีเกมส์ ก็พยายามแก้กฏเรื่องชนิดกีฬาที่บรรจุแข่งขัน เรื่องของอีเวนต์ชิงเหรียญรางวัล แต่ในเรื่องของนักกีฬาโอนสัญชาติ หรือโยกสัญชาตินั้น หลายชาติยังไม่ขอร่วมโหวตให้มีการเลื่อนไปก่อนในโอกาสหน้า ซึ่งปัญหานี้อาจจะยังคงอยู่ในซีเกมส์ต่อไป หากยังไม่มีการลงมติเกิดขึ้น” บิ๊กต้อม กล่าวคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้

ก่อนหน้านี้ “บิ๊กแนต” นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซีอีโอสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ระบุว่า ธรรมนูญข้อบังคับของซีเกมส์ ในส่วนของการโอนสัญชาตินั้น มีช่องโหว่อย่างมาก เพราะระบุเพียงว่าหากนักกีฬาที่ถือพาสปอร์ตของชาตินั้นๆ ก็สามารถส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันได้แล้ว เนื่องจากในธรรมนูญซีเกมส์ ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะต้องถือพาสปอร์ตเป็นเวลากี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี ทำให้มีการอาศัยช่องโหว่ดังกล่าวส่งนักกีฬาจากชาติยุโรปหรือชาติอื่นๆ ของเอเชีย ลงแข่งขันเป็นจำนวนมาก ทั้งที่นักกีฬาดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชาติที่ส่งนักกีฬาเลย ไม่ได้เป็นนักกีฬาลูกครึ่งด้วยซ้ำ ซึ่งประเด็นนี้ทางมนตรีซีเกมส์เอง ก็ได้แต่ทำใจเพราะว่าไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนักของแต่ละชาติเท่านั้น

นอกจากนี้ นายชัยภักดิ์ ยังระบุด้วยว่า ในเรื่องของการบรรจุกีฬาพื้นบ้านชิงเหรียญทองจำนวนมากนั้น ทางสิงคโปร์เอง ก็เคยเกือบที่จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์มาแล้ว เพราะมองไม่เห็นทิศทางในการพัฒนานักกีฬาแต่อย่างใด ขณะที่ ส่วนตัวมองว่า หากชาติอาเซียน จะจัดกีฬาพื้นบ้านจำนวนมาก ก็ควรที่จะแยกออกมาจัดจากซีเกมส์ ซึ่งจะเป็นการเหมาะสมและเป็นการหาทางออกที่ดีให้กับกีฬาพื้นบ้านของแต่ละชาติได้อย่างดีที่สุด.

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin